ด้านสาธารณสุข
โครงการอาหารปลอดภัยสู่โรงเรียนด้อยโอกาส (Share for Life “ปันอิ่ม เพื่อน้อง”)
โครงการอาหารปลอดภัยสู่โรงเรียนด้อยโอกาส (Share for Life “ปันอิ่ม เพื่อน้อง”)
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน
กว่าร้อยละ 50 ของประชากรโลกบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เช่นเดียวกับประเทศไทยที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลักประจำวัน และแม้ว่าประเทศจะเริ่มพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น แต่การทำนาปลูกข้าวยังถือว่ามีความสำคัญในการผลิตภาคการเกษตรเป็นอันดับต้นๆ
“ข้าว” คือ ผลผลิตที่เกิดจากความวิริยะอุตสาหะของชาวนาไทย และเป็นผลิตผลที่หล่อเลี้ยงประเทศไทย มาแต่ครั้งโบราณ ข้าวจึงเป็นสิ่งที่ผูกพันและอยู่คู่กับสังคมไทยเสมอมา คนไทยทุกคนตั้งแต่เล็กจนโตจึงให้ความสำคัญในคุณค่าของข้าว ขณะที่กองโภชนาการ ได้กำหนดเป็นข้อปฏิบัติการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยขึ้น 9 ข้อ หรือ ที่เรียกว่า “9 ข้อ เพื่อการกินดี มีสุข” และ 1 ใน 9 ข้อ ระบุไว้ว่า กินข้าวเป็นอาหารหลักและสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ร่วมมือกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และบริษัท ศาลานา ออแกนิค วิลเลจ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ( Memorandum of Understanding : MOU) ดำเนินโครงการ Share for Life “ปันอิ่ม เพื่อน้อง” โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบข้าวสารอินทรีย์ 5 สายพันธุ์ จำนวน 34,000 กิโลกรัม ให้กับ 63 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และสระแก้ว ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2564 เพื่อให้เด็กนักเรียนจำนวน 14,250 คน มีข้าวในโรงอาหารเพียงพอ ได้บริโภคข้าวที่ปลอดภัย ได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้และเติบโตสมวัย
ผลสะท้อนจากครูและเด็ก
“โครงการ Share for life ปันอิ่ม เพื่อน้อง”
“ขอขอบพระคุณทางมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา เป็นอย่างสูง ที่มอบข้าวสารให้ทางโรงเรียน ได้นำมาใช้ประกอบอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน เพื่อพัฒนาร่างกายให้เจริญเติบโตบำรุงสมอง ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป”
นายอาคม ยิ้มเจริญ
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองยายสร้อย
จังหวัดฉะเชิงเทรา
"ผมขอขอบพระคุณที่ท่านได้เมตตา มอบข้าวสารให้แก่โรงเรียนของเรา เพื่อประกอบอาหารเช้าให้พวกเราได้รับประทานกัน เป็นข้าว 5 สายพันธุ์ ที่อร่อยและมีประโยชน์มาก ผมสัญญาว่าผมจะตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีครับ"
เด็กชายเมธา ชาดง
นักเรียนโรงเรียนบ้านคลองยายสร้อย
จังหวัดฉะเชิงเทรา
“ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ทางมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ได้มอบข้าวสารอินทรีย์ให้กับโรงเรียนของเรา ทางโรงเรียนได้นำข้าวสารอินทรีย์มาประกอบอาหารให้กับนักเรียนได้รับประทาน ทั้งในโครงการอาหารเช้าเพื่อน้อง และโครงการอาหารกลางวัน นักเรียนได้รับประทานข้าวที่มีประโยชน์ลดความเสี่ยงจากพิษของสารเคมีที่อาจปนเปื้อน ทำให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี ผมจึงขอขอบพระคุณทางมูลนิธิฯ มา ณ โอกาสนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านในครั้งต่อไป”
นายสมทรง อนุภาพ
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองไม้ซุง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เด็กชายจักรภัทร วัฒนโชติ
นักเรียนโรงเรียนวัดหนองไม้ซุง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โครงการอาหารปลอดภัยสู่โรงเรียนด้อยโอกาส (Share for Life “ปันอิ่ม เพื่อน้อง”)
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน
“ข้าว” คือ ผลผลิตที่เกิดจากความวิริยะอุตสาหะของชาวนาไทย และเป็นผลิตผลที่หล่อเลี้ยงประเทศไทย มาแต่ครั้งโบราณ ข้าวจึงเป็นสิ่งที่ผูกพันและอยู่คู่กับสังคมไทยเสมอมา คนไทยทุกคนตั้งแต่เล็กจนโตจึงให้ความสำคัญในคุณค่าของข้าว ขณะที่กองโภชนาการ ได้กำหนดเป็นข้อปฏิบัติการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยขึ้น 9 ข้อ หรือ ที่เรียกว่า “9 ข้อ เพื่อการกินดี มีสุข” และ 1 ใน 9 ข้อ ระบุไว้ว่า กินข้าวเป็นอาหารหลักและสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ในปี 2564 มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ร่วมมือกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และบริษัท ศาลานา ออแกนิค วิลเลจ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding : MOU) ดำเนินโครงการ Share for Life “ปันอิ่ม เพื่อน้อง” โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบข้าวสารอินทรีย์ 5 สายพันธุ์ จำนวน 34,070 กิโลกรัม ให้กับ 63 โรงเรียนในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และสระแก้ว รวมถึงเด็กและครอบครัว จำนวน 765 ครอบครัว ในพื้นที่ชุมชนแออัด จำนวน 20 ชุมชน พื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในปี 2564 ได้ส่งมอบข้าวครบตามจำนวนในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กนักเรียนจำนวน 14,250 คน มีข้าวในโรงอาหารเพียงพอ ได้บริโภคข้าวที่ปลอดภัย ได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้และเติบโตสมวัย